วันนี้ก็จะมีวิธีแนะนำหรือบริหารเงินในหระเป๋าอย่างไร ให้พออยู่ พอกิน และก็มีเก็บ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า
1. ต้องใส่ใจและต้องจริงจัง
เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า ในแต่ละเดือนคุณจะ "เหลือเก็บก่อนค่อยเอาไปใช้ หรือ เหลือจ่ายก่อนค่อยเอาไปเก็บ" ลองพิจารณาสมการด้านล่างว่าแบบใดที่เป็นตัวคุณ
รายได้ - เงินออม = รายจ่าย (เหลือเก็บ ค่อยเอาไปใช้)
รายได้ - รายจ่าย = เงินออม (เหลือจ่าย ค่อยเอาไปเก็บ)
การออมเงินที่ดีต้องเป็นแบบแรก คือ หักเงินออมไว้ก่อน ที่เหลือจึงนำไปใช้จ่าย เพื่อกันเงินสำหรับการเก็บออมอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน แต่สำหรับคนที่มองหาความมั่งคั่ง สมการแบบนี้ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องเลือกใช้สมการเศรษฐี นั่นคือ
รายได้ - เงินออม - เงินลงทุน = รายจ่าย โดยหลังหักเงินออมแล้ว ยังต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุนด้วย เพื่อให้เงินทำงาน เงินทองจะได้งอกเงยยิ่งๆ ขึ้นไป
รายได้ - เงินออม - เงินลงทุน = รายจ่าย โดยหลังหักเงินออมแล้ว ยังต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุนด้วย เพื่อให้เงินทำงาน เงินทองจะได้งอกเงยยิ่งๆ ขึ้นไป
2.รู้จักตนเองก่อน.....ลงมือ
เริ่มต้น เราต้องปรับความเข้าใจเสียก่อนว่าเงินออมหรือเงินเก็บนั้นมีหลายวัตถุประสงค์ แต่ก่อนเราคิดว่าเงินออมนี้คือเอาไว้เป็นเงินสำรอง ฉะนั้นเราควรแบ่งเงินที่จะเก็บให้ชัดว่าเงินเก็บก้อนนี้เอาไว้ทำอะไร ก้อนนี้ไว้ทำอะไร และอย่าเอามาปนเป็นบัญชีเดียวกัน เราต้องแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วนที่จัดเจน
3. ลงมือ เริ่มการเดินหน้าออมเงิน
การแบ่งสัดส่วนการออม เป็น 4 ส่วน
- เงินสำรองใช้ อันนี้เป็นเงินเก็บที่สะสมไว้เพื่อใช้จ่ายในอนาคต คือตั้งใจไว้เลยว่านี่คือเงินเก็บไว้ใช้จริงๆ เช่น iPhone รุ่นใหม่ออก ซื้อเสื้อผ้า กินข้าวมื้อพิเศษ ตลอดไปจนรายจ่ายพิเศษที่อาจจะเกิดขึ้นจากชีวิตประจำวัน เงินก้อนนี้จะแบ่งเอาไว้ในปริมาณที่ตั้งใจไว้ว่าจะใช้ไม่เกินไปจากนี้ เช่นสมมติเงินเก็บก้อนนี้มี 20,000 บาท แต่ถ้าจะเอาไปซื้อไอโฟนซึ่งไม่พอ ก็จะไม่เอาเงินเก็บกองอื่นมาใช้ ต้องรอให้เงินกองนี้ครบเสียก่อนถึงจะเอาไปซื้อได้
- เงินสำรองเที่ยว ก้อนนี้แนะนำให้เก็บไว้เพื่อเป็นรางวัลกับตัวเองในการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ให้ไอเดียว่าปีๆ หนึ่งเราควรออกไปท่องเที่ยว เติมแรงบันดาลใจให้ตัวเองกันบ้างสักครั้งสองครั้ง เงินก้อนนี้คือก้อนที่แบ่งไว้เพื่อกรณีนี้ ให้ตั้งใจไว้เลยว่าก้อนนี้ใช้เที่ยว ไม่ใช่เอามาเก็บเพื่ออย่างอื่น ถ้าสมมติปีนี้เก็บได้ 1 หมื่นแล้วยังไม่เที่ยว ก็เก็บไว้เที่ยวปีหน้าที่อาจจะเพิ่มเป็น 2 หมื่น สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้ ฯลฯ
- เงินลงทุน ก้อนนี้จะแบ่งไว้สำหรับคนที่อยากลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เงินก้อนนี้เน้นการเห็นผลในอนาคตระยะยาว (แต่ถ้าใครเก่งจะเล่นหุ้นเทคนิคระยะสั้นก็ไม่ว่าอะไรนะครับ) แต่เงินก้อนนี้ต้องทำใจว่าการจะได้คืนในระยะเวลาอันสั้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ควรจะเป็นเงินที่เหลือจากการเก็บสำรองไว้แล้วเพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน เงินก้อนนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการแปรกลับมาเป็นเงินสดอีกครั้ง (ขายหุ้น ขายบ้าน ฯลฯ)
- เงินออมระยะยาว อันนี้คือการเก็บเงินสดสำรองไว้ในภายภาคหน้าไกลๆ อาจจะไม่ต้องเก็บทีละเยอะๆ แต่เป็นการเก็บที่ต่อเนื่อง มากน้อยแตกต่างกันได้แต่ต้องทำอยู่สม่ำเสมอ ถ้าใครนึกอะไรไม่ออกอาจจะใช้วิธีการฝากบัญชีเงินฝากประจำก็ได้เพื่อบังคับตัวเองอยู่เรื่อยๆ
เราใช้การแบ่งเงินออกเป็นสี่ก้อนดังกล่าว นอกจากนี้แล้ว ยังอาจจะมีเทคนิคในการแบ่งเงินอีกแบบคือการแบ่งบัญชีรายได้ประจำกับบัญชีรายได้ไม่ประจำ ทั้งนี้เพราะบัญชีเงินเดือนนั้น เราสามารถกะเกณฑ์ได้ว่าทุกๆ เดือนเราจะแบ่งเงินออกไปยังกองนั้นกองนี้เท่าไร แต่บัญชีที่มาจากงานเสริมนั้นมีรายได้เข้ามาไม่แน่นอน บางเดือนมาก บางเดือนไม่มี ฉะนั้นควรแยกบัญชีรายได้ส่วนนั้นออกไป โดยจะดีถ้าให้เงินก้อนนั้นเป็นเงินเก็บสะสมอีกกองหนึ่งที่เราจะไม่แตะต้อง
อันนี้เป็นวิธีการแบ่งเงินออมแบบง่ายๆ แต่ก็หวังว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คนที่เริ่มเก็บเงินกันบ้างแล้วกันนะค่ะ
ที่มา http://www.nuttaputch.com/tips-for-money-saving/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น